solvingscarcity.org
กับหมายเลขพรรคคนละเบอร์กัน เวลาลงพื้นที่จะสร้างความสับสนให้ผู้เลือกและผู้รณรงค์หาเสียง เราพบว่าบางกรณี ส.
ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง และ2. ให้ความสะดวกกับประชาชน ถ้าวันนี้แก้กฎหมายเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและเป็นประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่ง กติกาจะไม่ได้รับความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ ดังนั้น หากใครแพ้ ใครชนะ ก็จะหยิบยกสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา จนอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นปัญหา และเกิดเป็นความขัดแย้งในบ้านเมือง พรรคการเมืองใดจะมาเป็นเพียงสมมติฐานทั้งสิ้น มันเป็นพื้นฐานและต้นทุนที่มีอยู่ แต่สุดท้ายวันเลือกตั้งก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าแก้กฎหมายเพื่อตัวเองหรือเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็อย่าหวังว่าจะได้รับความเชื่อมั่นกับประชาชน website: facebook: MGRonlineLive twitter: @MGROnlineLive instagram: mgronline line: MGROnline youtube: MGR Online VDO
ว. 14 คน พรรคพลังประชารัฐ 6 คน ในการโหวตจะต้องได้เสียงมากกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 25 เสียง ของสมาชิกกรรมาธิการที่มีอยู่ทั้งหมด 49 ชีวิต เท่ากับว่า ฝ่ายรัฐบาล หาเพิ่มอีกแค่ 5 เสียงในโควตา กมธ. คณะรัฐมนตรีที่มีอยู่ 8 เสียง พรรคภูมิใจไทย 3 เสียง และพรรคเล็ก ๆ 1 เสียง เช่น เศรษฐกิจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา เท่านี้ก็ล็อกสเป็กให้เป็นสูตรเลือกตั้ง 2 ใบ คนละเบอร์ ได้สำเร็จ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ กมธ. โควตารัฐบาล กล่าวเหตุผลสนับสนุนบัตรเลือกตั้งสองใบ คนละเบอร์ ว่า 1. เป็นแนวทางที่เขียนในร่างกฎหมาย ทั้งของคณะรัฐมนตรีและร่างพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องใช้คนละเบอร์ 2. เบอร์เขตที่ใช้ในเขตเลือกตั้งคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ใครมาก่อนก็ได้เบอร์นั้นไป หรือจับสลาก ไม่ได้เป็นข้อยุ่งยาก ส่วนเบอร์พรรค (ปาร์ตี้ลิสต์) ก็ต้องมาจับสลากกัน อาจมี 80 พรรคที่มาสมัคร ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งพรรคใหญ่ ๆ ดัง ๆ อาจได้เบอร์ 75 ก็ได้ ถ้าเอาเบอร์พรรคปาร์ตี้ลิสต์ มาใช้กับบัตร ส. เขต ก็จะทำให้ ส. เขตได้เบอร์ 75 ไปด้วย ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้สมัคร ส. เขต 3. ฝ่าย ส. กับ ส. ที่เป็นกรรมาธิการบางคนห่วงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 90 วรรคหนึ่ง เพราะส่งเขตให้จบก่อน แล้วค่อยสมัคร ส.
2 เม. ย. 2565 13:32 น. "เพื่อไทย" หวั่น บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คนละเบอร์ ทำบัตรเสียพุ่ง แนะ รัฐบาล รับข้อเสนอพรรคเพื่อไทย เปิดสมัคร ส. ส. เขตก่อน ค่อยสมัคร ส. บัญชีรายชื่อ ชี้ ง่ายและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า ช่วยให้สับสนน้อยลง วันที่ 2 เม. ดร. อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ. ร. ป. ) รัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส. มีมติให้หมายเลขผู้สมัคร ส. กับหมายเลขพรรคการเมืองใช้เป็นคนละหมายเลข ซึ่งเป็นการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งในปี 2550 ซึ่งประเทศไทยเคยมีบทเรียนมาแล้วว่า สร้างผลเสียมากมาย เพราะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เกิดความยุ่งยากและซับซ้อนขึ้น จนอาจทำให้การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนไม่เป็นไปเจตนารมณ์ของประชาชน และยังมีโอกาสที่จะทำให้ประชาชนลงคะแนนเสียงผิดโดยไม่ตั้งใจ โอกาสที่จะมีบัตรเสียก็มีมากขึ้นตามไปด้วย และยังทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง จากการที่ ส. เขตจะต้องทำการสื่อสารหาเสียงในพื้นที่ไปพร้อมกับการรณรงค์หาเสียงของพรรค ซึ่งอาจจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยของไทยอ่อนแอลงตามไปด้วยเช่นกัน ดร. อรุณี กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจ ที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดการระบบเลือกตั้งไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนในการเลือกตั้งปี 2550 ไม่นำเอาผลการวิจัยที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำการศึกษาวิจัยเรื่องระบบการเลือกตั้ง พบว่า การเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ แต่ใช้คนละเบอร์ ทำให้เกิดปัญหาและสร้างความสับสน จนในที่สุดเสียงเป็นเอกฉันท์ให้กลับไปใช้ระบบบัตรเบอร์เดียวในการเลือกตั้งทั่วไป พ.
ศิธา ทิวารี ในนามพรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 12 นายประยูร ครองยศ ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 13 นายพิศาล กิตติเยาวมาลย์ ในนามอิสระ เบอร์ 14 นายธเนตร วงษา ในนามอิสระ เบอร์ 15 พล. ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที ในนามอิสระ เบอร์ 16 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ในนามกลุ่มใส่ใจ เบอร์ 17 นายอุเทน ชาติภิญโญ ในนามอิสระ เบอร์ 18 นางสาวสุมนา พันธุ์ไพโรจน์ ในนามอิสระ เบอร์ 19 นายไกรเดช บุนนาค ในนามอิสระ เบอร์ 20 นางอมรพรรณ อุ่นสุวรรณ ในนามอิสระ เบอร์ 21 นายนิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ ในนามอิสระ เบอร์ 22 นายวรัญชัย โชคชนะ ในนามอิสระ เบอร์ 23 นายเฉลิมพล อุตรัตน์ ในนามอิสระ เบอร์ 24 นายโฆสิต สุวินิจจิต ในนามอิสระ เบอร์ 25 นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ ในนามอิสระ เบอร์ 26 พล. มณฑล เงินวัฒนะ ในนามอิสระ เบอร์ 27 นายภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ ในนามอิสระ เบอร์ 28 นายสราวุธ เบญจกุล ในนามอิสระ เบอร์ 29 นายกฤตชัย พยอมแย้ม ในนามพรรคประชากรไทย เบอร์ 30 นายพงศา ชูแนม ในนามพรรคกรีน เบอร์ 31 นายวิทยา จังกอบพัฒนา ในนามอิสระ ส่วนผลการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส. ) มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส. 50 เขต รวมจำนวน 382 คน โดยสำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.
ด่านแรกของการกำหนดกติกาเลือกตั้งบัตร 2 ใบว่าจะใช้เบอร์เดียวทั่วประเทศ หรือบัตร 2 ใบ แต่คนละเบอร์ แม้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงจากฝ่ายรัฐบาลร่วมโหวตเลือกบัตร 2 ใบ เบอร์เดียว แต่ยังแพ้เสียงโหวตจากพรรคร่วมรัฐบาลและ ส. ว. ที่โหวตให้ใช้คนละเบอร์ วันนี้ (30 มี. ค. 2565) มติที่ประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไล่ประเด็นการโหวตชี้ขาดในชั้นกรรมาธิการฯ การกำหนดให้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง ส. ส. เห็นด้วย 25 เสียง ไม่เห็นด้วย 19 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากองค์ประชุม 46 คน สำหรับประเด็นการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ตามที่ ครม. ขอให้ดำเนินการพร้อมกับ ส. เห็นด้วย 31 เสียง ไม่เห็นด้วย 7 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง จากองค์ประชุม 47 คน ส่วนประเด็นสุดท้ายคือการกำหนดหมายเลขประจำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส. แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ให้ใช้ต่างเบอร์กัน เห็นด้วย 32 เสียง ไม่เห็นด้วย 14 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง จากองค์ประชุม 47 คน ก่อนหน้านี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธาน กมธ.