solvingscarcity.org
ความกว้างกระบอกสูบxความยาวช่วงชักเท่ากับ 87. 0x67. 2 อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 8. 5: 1 แรงม้าที่มีมาให้ใช้ 27 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 7, 000 รอบต่อนาที แรงบิด 3.
เปิดตำนาน Yamaha สายพันธุ์ SR 400/500 ทำไมรถรุ่นนี้ถึงได้มีอายุการผลิตที่ยาวนานเกือบ30ปี? ทำไมถึงมีการปรับเปลี่ยนโฉม(Minor Change) ทั้งหมด 21ครั้งตั้งแต่เริ่มผลิตจนถึงปัจจุบัน ทำไมมันถึงไม่ยอมตกยุคหนำซ้ำยังได้รับความกระแสความน ิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องที่น่าศึกษาและค้นคว้า และนี่คือตำนาน Yamaha ตระกูล SR 400/500 ได้เริ่มสายการผลิตในครั้งแรกเมื่อปี ค. ศ. 1978 โดยเริ่มผลิตด้วยรุ่น 500 ก่อน ซึ่งได้ใช้เครื่องยนต์ของรถแนววิบากรุ่นพี่คือ Yamaha XT 500 (เริ่มผลิตปี 1976) เป็นต้นแบบ หลังจากนั้นจึงผลิตรุ่น 400 ตามออกมา ด้วยการออกแบบรูปทรงเพื่อสนองความต้องการในยุคสมัยนั ้น (ยุครุ่งเรืองของรถมอเตอร์ไซค์จากเมืองผู้ดีอังกฤษ) เครื่องยนต์สี่จังหวะสูบเดียว 400และ500cc. ระบบการไหลเวียนของน้ำมันเครื่องโดยใช้เฟรมของตัวรถ ซึ่งเป็นที่ต้องตาต้องใจวัยรุ่นยุคนั้นอยู่ไม่น้อยเล ยทีเดียว และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ได้มีการปรับเปลี่ยนสีสันลายถัง, โลโก้, ระบบเบร ค เป็นต้น มีการผลิตรุ่น SP ทั้งหมด2รุ่น และ Special Edition ทั้งหมด4ครั้ง ที่เราจะได้มาดูในรายละเอียดกันต่อไป - ข้อมูลทางเทคนิคของ SR 400 เครื่องยนต์แบบ Single สูบเดียว 4จังหวะ โอเวอร์เฮดวาล์ว(OHC) 2 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ รหัสเครื่องยนต์ 2H6 (ไม่มีเลขต่อ)/ปี1996-2000 2H6 xxxxxx (มีเลข6หลัก)/ปี 2001 ถึงปัจจุบัน H313E xxxxxx ความจุกระบอกสูบเท่ากับ 399cc.
เปิดไลน์การผลิต ด้วยดีไซน์ ถังน้ำมันแบบเรียวยาวและฝาถังยาว โลโก้ข้างถังเป็นแบบสติ๊กเกอร์ เป็นตัวอักษรคำว่า YAMAHA ตัวใหญ่ แบบเรียบ(ลายถังของ400และ500ไม่เหมือนกัน) ส่วนโลโก้ฝาข้างเป็นแบบเรียบเช่นกัน โดยมีตัวอักษรคำว่า SR400 อยู่ในแนวเดียวกัน ปีแรกมีการผลิตรุ่น400และ500cc. ระบบเบรกหน้าเป็นแบบ ดิสค์เบรค โดยอยู่ด้านซ้ายของวงล้อหน้า ไมล์หน้าดำเข็มเหลืองมีตุ่มไฟสีส้มที่กะโหลกไฟหน้า(ไ ม่รู้ว่าใช้บอกอะไร) เท่าที่ดูจากแคตตาล็อค 400มีฝาหลัง(หลังเบาะ)ส่วน500ไม่มีแต่จะมีมือจับเหล็ กสำหรับคนซ้อนจับแทน SR400 ใช้คาร์บูเรทอร์แบบลูกชัก ส่วน SR500 ใช้คาร์บูเรทอร์แบบลูกชักมีเจ็ทสเปรย์